ฮาลองเบย์ เวียดนาม – คู่มือท่องเที่ยวฉบับรวบรัด

สรุปโดยรวม

รับประกันเลยว่า หมู่เกาะในประเทศเวียดนามจะต้อวทำให้คุณอยากไปเที่ยวแน่นอน!

ทำไมต้องไปฮาลองเบย์ล่ะ?

ไม่ว่าคุณจะเคยไปเที่ยวในประเทศเวียดนามแล้ว หรือเพิ่งจะมาครั้งแรก แอดเชื่อว่าจุดหมายส่วนใหญ่ของคนที่มาที่นี่ ก็มักจะเป็นที่หมู่เกาะ
เสมอ สิ่งที่ทำให้ฮาลองเบย์แตกต่างจากที่อื่นก็คือ ที่นี่ถูกประกาศว่าเป็นพื้นที่มรดกของโลกยังไงล่ะ! น้ำทะเลสีเขียวมรกต, ถ้ำที่ไม่ได้้อยู่ในแผนที่ และทิวทัศน์ของเกาะเกือบ 2,000 เกาะ เป็นเพียงข้อพิสูจน์ความจริงเท่านั้น

เมื่อมาถึงที่เกาะ คุณจะสามารถมองเห็นชายหาดได้ประปราย และสัมผัสได้ถึงความโรแมนติกที่แท้จริงในธรรมชาติ มีสถานที่ในโลกนี้ไม่มากนัก ที่คุณจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้โดยไม่ถูกรบกวน แม้ว่าบริเวณใกล้เคียงจะมีสัตว์ป่าคอยดึงดูดและหันเหความสนใจของคุณก็ตาม
ฮาลองเบย์นั้น เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ปีนเขา, พายเรือคายัก, หรือสำรวจถ้ำ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านลอยน้ำที่ชาวบ้านหาเลี้ยงชีพด้วยสิ่งมีชีวิตทางทะเลต่างๆ หากคุณวางแผนที่จะลงเล่นน้ำ ลองเล่นหลังพระอาทิตย์ตกดินดูสิ คุณจะได้พบกับแพลงก์ตอนเรืองแสงลอยขึ้นมาเซย์ฮัลโหล
การเดินป่ารอบๆ อ่าวฮาลองเบย์ก็เป็นกิจกรรมยอดฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวเช่นกัน แต่อย่าลืมเช็คให้มั่นใจล่ะ ว่าคุณมีขนมติดกระเป๋าแล้วหรือยัง เกิดหิวระหว่างทางละแย่เลย

สิ่งที่ดูแปลกที่สุดในฮาลองเบย์ ดูเหมือนจะเป็นบ่อนคาสิโน
Royal international casino ตั้งอยู่ริมถนนสายหลักใน บ๋ายจั๊ย (Bai Chay) ที่นี่ต้องใช้พาสปอร์ตในการที่จะเข้าไป
และยังมีสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายรูปเซลฟี่โพสต์ลง Instagram คือ สะพานบ๋ายจั๊ย (Bai Chay Bridge) บนสะพานจะประดับไปด้วยหลอดไฟ LED นับพันดวง แนะนำว่าให้ไปเที่ยวชอมตอนกลางคืน
โบสถ์โรมันฮอนไก (Hon Gai) เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ไม่น่าจะอยู่ที่นี่ได้ อาคารเก่าแก่นี้ตั้งอยู่บนถนนญาทอ (Nha Tho)

แอดแนะนำว่าให้ลองสอบถามชาวบ้านเกี่ยวกับ ไบ๋ทอ (Bai Tho) ดูสิ นี่เป็นสถานที่ลับที่เราจะสามารถเดินขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ด้านบนได้

ควรไปฮาลองเบย์เมื่อไหร่ดีล่ะ?

ช่วงเวลาที่เหมาะจะไปเที่ยวที่นี่คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) บรรยากาศที่นี่จะเย็นสบาย
อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาจมีพายุใต้ฝุ่นเกิดขึ้นในช่วงใกล้สิ้นปี โดยปกติแล้ว ที่นี่จะมีการเตือนล่วงหน้าก่อนจะเกิด เพื่อให้ได้เตรียมตัวกัน
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง อากาศอาจจะหนาวเย็นเล็กน้อย ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนที่ค่อนข้างจะขี้หนาว การเตรียมเสื้อกันหนาวไปเผื่อสักนิด อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีเลยล่ะ

ควรพักที่ไหนดี ในฮาลองเบย์?

ถ้าจะให้แนะนำอย่างตรงไปตรงมาละก็ ที่นี่มีโรงแรมระดับ 3 หรือ 4 ดาวจำนวนมาก (อาจจะมีจำนวนมากกว่าโฮสเทลด้วยซ้ำ)
ทำเลที่น่าจับจ่ายใช้สอยรอบๆนั้น รู้จักกันในชื่อ Hotel Alley ซึ่งตั้งอยู่บนถนน Voun Dao มีโรงแรมให้เลือกมากมายราคาอยู่ระดับกลางๆ

กิจกรรมส่วนใหญ่ในฮาลองเบย์ สามารถทำได้ครบภายใน 1 หรือ 2 วัน ดังนั้นที่นี่จึงไม่เหมาะที่จะอยู่พักผ่อนแบบระยะยาว
อย่างไรก็ตาม หากคุณเลือกที่จะพักที่นี่ต่อสัก 2-3 วัน หรือต้องการที่พักแบบมีชายหาดส่วนตัว ที่นี่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้

บ๋ายจั๊ย (Bai Chay) ศูนย์กลางของแบ็คแพ็คเกอร์ในฮาลอง ที่นี่คุณจะพบกับที่พักราคาถูก คนขี้เมา และร้านขายอาหาริมทางเดินมากมายซึ่งตั้งอยู่ติดกับชายหาด ทั้งนี้ยังมีตลาดสดท้องถิ่นให้เลือกซื้ออาหารทะเลสดกันด้วยนะ

หรือถ้าคุณมีงบที่จำกัด แอดมีตัวเลือกโฮสเทลดังต่อไปนี้มาแนะนำ
Halong Party Hostel – โฮสเทลที่ดำเนินกิจการโดยชาวอังกฤษแห่งนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับชายหาด ร้านอาหาร และร้านกาแฟ พนักงานที่นี่มีความเป็นกันเอง ยิ้มแย้มแจ่มใส และมีความเป็นมิตรมากๆ
ช่วงราคา: หอพักรวมราคา 13,000 VND, ห้องเตียงคู่ 40,000 VND
ที่อยู่: 21 Vườn Đào, Bãi Cháy, Thành phố Hạ Long, Quảng Ninh, Vietnam

Halong Backpacker Hostel – สถานที่เล็กๆ ที่เหมาะสำหรับการพบปะกับเพื่อนฝูง มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ พร้อมทีวีขนาด 50 นิ้ว และบาร์
ช่วงราคา: หอพักรวมราคา 11,000 VND, ห้องเตียงคู่ 30,000 VND
ที่อยู่: 41 Anh Đào, STREET, Thành phố Hạ Long, Quảng Ninh 202400, Vietnam

Halong Happy Hostel – อยู่ห่างจากสวนสาธารณะฮาลองเพียง 200 เมตร มีห้องครัวส่วนกลางที่เหมาะสำหรับการทำอาหารด้วยตนเอง หรือหากคุณไม่อยากทำอาหารเอง ที่นี่มีร้านอาหารในตัวนะ
ช่วงราคา: หอพักรวมราคา 11,000 VND, ห้องเตียงคู่ 30,000 VND
ที่อยู่: 25 Anh Đào, Bãi Cháy, Thành phố Hạ Long, Quảng Ninh, Vietnam

ถึงแม้จะมีโรงแรมในบ๋ายจั๊ยมากกว่า แต่ราคาของที่นี่ก็ถูกกว่าโรงแรมระดับกลางในเมืองฮาลองมาก

Starlight Hotel – โรงแรมที่ค่อนข้างใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่เงียบสงบ ไม่ไกลจากร้านกาแฟ และร้านอาหาร (ขอบอกว่าเบเกอรี่แถวนี้อร่อยมาก!)
ช่วงราคา: 300,000 VND
ที่อยู่: 1A Anh Đào, Bãi Cháy, Thành phố Hạ Long, Quảng Ninh, Vietnam

City Bay Palace Hotel – โรงแรมแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของท้องถิ่น ที่นี่มีชาวบ้านพลุกพล่าน ห่างไกลจากพื้นที่ท่องเที่ยวพอสมควร และเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ชนบท คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมรอบๆ และมุมมองประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ช่วงราคา: 676,000 VND
ที่อยู่: 156 Lê Thánh Tông, P. Bạch Đằng, Thành phố Hạ Long, Quảng Ninh, Vietnam

Halong paradise Suites hotel – แขกส่วนใหญ่ที่เข้าพักที่นี่มักจะพักกันแค่คืนเดียว ที่นี่มีทั้งสปา, ชายหาดส่วนตัว และมินิบาร์ แต่เนื่องจากอยู่ห่างจากท่องเที่ยวอื่นๆ มาก ที่นี่จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนและอยู่แค่ในบริเวณโรงแรมมากกว่า
ช่วงราคา: 1,900,000 VND
ที่อยู่: Tuan Chau Island, Quảng Ninh 200000, Vietnam

Vinpearl Ha long Bay Resort – รีสอร์ตแห่งนี้ตั้งอยู่ในบ๋ายจั๊ย มีสระว่ายน้ำทั้งในร่ม และกลางแจ้ง ที่พิเศษที่สุดคือ โรงแรมแห่งนี้สามารถเดินทางไปได้โดยสปีดโบ๊ททางเดียวเท่านั้น!
ช่วงราคา: 2,900,000 VND
ที่อยู่: Đảo Rều, Đỗ Sĩ Họa, Thành phố Hạ Long, Quảng Ninh 200000, Vietnam

ไปฮาลองเบย์ทานอาหารที่ไหน? แล้วทานอะไรดี?

ย่านอาหาร Cai Dam ที่บ๋ายจั๊ย เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อที่สุดสำหรับอาหารแผงลอยที่ตั้งขายอาหารทะเลริมชายหาด
งาน (Ngan) เป็นอาหารทะเลยอดนิยม มีลักษณะคล้ายกับหอยนางรม แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก งานสามารถนำไปทำเมนูพิเศษได้หลายอย่าง ราคาของงานตามร้านแผงลอยริมทะเล จะมีราคาถูกกว่ามาก หากเทียบกับร้านอาหารซึ่งมีทั้งถูกและแพง ปะปนกันไป
อาหารยอดนิยมอีกอย่างก็คือ ปลาซู่ (สามารถหาทานได้ในฮาลองเท่านั้น!) ร้านอาหารข้างทางที่นี่จะเต็มไปด้วย กุ้ง หอยแมลงภู่ ปูจิ๋ว และทอดมันปลาหมึก

ร้านอาหารคอหงู (Co Ngu Restaurant) อยู่ติดกับหาดบ๋ายจั๊ย เสิร์ฟทั้งอาหารเอเชีย และอาหารตะวันตก หนึ่งในอาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ก็คือ ปลาซู่ ซึ่งเป็นอาหารจารพิเศษยอดนิยมที่พบได้เฉพาะในฮาลอง
หากคุณกำลังมองหาของอร่อยที่แท้จริงละก็ ตู๋ไห่ (Tu hài) คือหอยเลิศรสที่มีราคาแพง ซึ่งจะพบได้แถวเกาะ Van Don
สัตว์ทะเลเปลือกแข็งนี้ปกติจะนิยมทำเป็นซุป หรือใส่กับสลัด หรือใช้วิธีนึ่ง, อบ การนึ่งจะทำให้ตู๋ไห่มีรสชาติที่กลมกล่อม และบางครั้งก็มักจะเสิร์ฟให้รับประทานพร้อมกับเครื่องเทศ

บางครั้งเวลาเดินทาง เรามักจะอยากทานอาหารที่ทำให้นึกถึงบ้าน เช่น พิซซ่า
Emeraude Café ที่หาดบ๋ายจั๊ย (อยู่ถัดจากที่ทำการไปรษณีย์) มีให้บริการอาหารตะวันตกที่หลากหลายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้อาหารทะเล หรือคนที่ปกติไม่ชอบทานอาหารทะเล

ฮาลองยังมีร้าน Café 555 ที่คุณควรไปลองชิมกาแฟ รับรองว่าหอมติดใจจนอยากกลับไปซื้ออีกครั้ง (ร้านจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Bai chai Tourist Wharf) ไม่มีอะไรที่จะเพลิดเพลินไปกว่าการได้นั่งจิบกาแฟ หน้าชายหาดและซึมซับบรรยากาศที่ร้านนี้อีกแล้ว นอกซะจากคุณจะชอบนั่งจิบเบียร์อะนะ!

การเดินทางไปรอบๆ ฮาลองเบย์

ที่ฮาลองเบย์มีรถแท็กซี่ให้บริการ และราคาที่เป็นมิตร เริ่มต้นที่ประมาณ 14,000 VND (ประมาณ 20 บาท)
คนขับที่นี่มีความคุ้นเคยในเส้นทางเป็นอย่างมาก ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะหลง แต่โดยปกติแล้ว นักท่องเที่ยวที่นี่จะนิยมเช่ารถมอเตอร์ไซค์กันเสียมากกว่า แอดขอแนะนำให้ลองติดต่อสอบถามกับทางโรงแรมที่พักหากต้องการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ ราคาจะอยู่ที่ 3-5 USD ต่อวัน (ประมาณ 98 - 170 บาท)

แล้วจะไป-กลับฮาลองเบย์ยังไงล่ะ?

มีหลายวิธีที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้ในการเดินทางไปยังฮาลองเบย์ วิธีที่ดีและสะดวกสบายที่สุด คือการนั่งรถบัสปรับอากาศ
สนนราคาอยู่ที่ 7-15 USD ต่อท่าน (ประมาณ 230-494 บาท) ทั้งนี้ราคาจะขึ้นอยู่กับประเภทของรถด้วย

นอกจากนี้ ยังมีรถมินิบัส ซึ่งให้บริการในเส้นทางเดียวกัน ราคาตั๋วจะอยู่ที่ประมาณ 15 USD ต่อท่าน (ประมาณ 494 บาท) ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด 4-5 ชั่วโมง
รถบัสจะมีให้บริการถึงแค่เวลา 10.00 น. เนื่องจากเรือข้ามฟากเที่ยวสุดท้ายที่ไปยังเกาะ จะออกประมาณ 15.00 น.

ฮานอย มีสถานีรถไฟซึ่งคุณสามารถใช้เดินทางไปฮาลองเบย์ได้ แต่สถานีรถไฟฮาลองเบย์จะอยู่ไกลจากท่าเรือ และการนั่งรถไฟอาจใช้เวลานานกว่าการนั่งรถบัส ราคาของตั๋วรถไฟจะอยู่ที่ 10 USD (ประมาณ 329 บาท) แต่เราไม่แนะนำให้เดินทางโดยรถไฟ เนื่องจากรถไฟนั้นค่อนข้างที่จะดีเลย์บ่อย ทีมงานแนะนำให้เดินทางโดยรถบัสดีกว่าจ้า

หากต้องการเดินทางจากไฮฟองไปฮาลองเบย์ล่ะ?
คุณสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ จากสนามบินกัตบี (Cat Bi) ไปยังเมืองฮาลอง ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 35 USD ต่อเที่ยว (ประมาณ 1,153 บาท)
หรืออีกทางเลือกหนึ่ง นั่งรถบัส ซึ่งปกติราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4 USD หากคุณจองผ่านเว็บไซต์ของเรา แต่หากคุณเดินทางไปซื้อตั๋วที่ท่ารถโดยตรง ราคาอาจจะขึ้นสูงถึง 5-10 USD เลยทีเดียว นอกจากนี้จุดลงรถบัสจะอยู่ห่างจากพื้นที่ท่องเที่ยวถึง 2 กิโลเมตร
ซึ่ง หากคุณเลือกที่จะเดินทางด้วยวิธีนี้ อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกประมาณ 0.6 USD เพื่อที่จะเดินทางไปยังพื้นที่ท่องเที่ยว

ฮาลองเบย์ปลอดภัยที่จะท่องเที่ยวไหม?

ฮาลองเบย์ถือเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและแทบจะไม่มีอาชญากรรมเกิดขึ้นเลย หากคุณต้องการที่จะล่องเรือแล้วละก็ อย่าลืมมองหาเสื้อชูชีพไว้เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะมีใช้ในกรณีฉุกเฉิน, สวมอุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ปีนเขา, เดินถ้ำ
แม้ว่าบนเกาะจะมีโรงพยาบาล แต่เครื่องมือที่นั่น สามารถรักษาได้แค่อุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆ หรือรักษาได้แค่อุบัติเหตุทั่วไปเท่านั้น
อ้อ! อย่าลืมพกยากันยุงไปด้วยล่ะ